น้องวีน จนจริง มีหลักฐานยืนยัน คณบดีคณะแพทย์ มอ.ยืนยัน ไม่ปิดกั้นโอกาสเข้าเรียนต่อ
วันที่ 25 ม.ค. 66 รองศาสตราจารย์นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อธิบายกรณีนายกันตภณ เต่าจันทร์ หรือน้องวีน อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น มัธยม6 จ.พัทลุง ที่สอบผ่านการทดสอบรอบพิเศษ เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์ และก็ได้ออกมาเปิดบัญชีรับบริจาค หาเงินเรียนแพทย์ ก่อนถูกโซเชียลแฉว่า “จนทิพย์”
โดย รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ระบุว่า จะต้องแยกเป็นข้อความสำคัญไป โดยหัวข้อการสอบเด็กสอบได้จริง มาจากวิชาความรู้ความสามารถ แล้วก็ผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน ไม่ได้ลัดขั้นตอนใด ๆ ก็ตามทั้งสิ้น ถือได้ว่าเป็นผู้มีความรู้และมีความเข้าใจที่จะเข้ามาเป็นนักเรียนแพทย์ได้

ส่วนประเด็นเรื่องจนจริง จนทิพย์ หรือไม่นั้น ต้องบอกว่า “จนจริง”
มิได้เพียงแค่อ่าน หรือฟังคำกล่าวของคนไหนมา แต่ว่าทางคณะแพทยศาสตร์ ได้ส่งทีมอาจารย์ลงพื้นที่ไปพบกับเด็ก และครอบครัว และก็สอบถามจากญาติ คนใกล้ชิด และก็คนที่มีความเกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลหลักฐานยืนยันได้ว่า ครอบคัวของน้องวีน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และก็ถ้าเกิดต้องมาเรียนหมอ ก็คงจะไม่มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ
ส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้น ไม่น่าจะเป็นประเด็น ที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด ซึ่งน้องวีนและครอบครัว เมื่อรู้ว่าสอบได้ก็ดีใจมาก รวมทั้งเชื่อว่าเมื่อรู้ว่าจะต้องเรียนหมอ ก็เลยมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยพยายามขวนขวาย หาแนวทาง ซึ่งสิ่งที่ทำก็มิได้ เป็นการโกหกหลอกลวง รวมทั้งสิ่งที่น้องวีน และครอบครัวกล่าวก็เป็นความจริง
ระหว่างที่ในเรื่องเงินทุนการศึกษานั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีบุคลากร และองค์กรภายนอก ที่รอสนับสนุนทุการศึกษา ให้กับนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปี 1-ปี 6 อีกทั้งยังมีทุนสำหรับการศึกษา จากมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อีกส่วนหนึ่งมอบ ที่จะมอบให้กับนักศึกษาที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดทุนทรัพย์ด้วย ซึ่งกรณีของน้องวีน หรือนักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มีขบวนการที่จะเข้าไปช่วยเหลือ นักศึกษาเหล่านี้อยู่แล้ว
จากข้อมูลล่าสุด ที่ได้ส่งกลุ่มอาจารย์ไปพบน้องวีน และก็ครอบครัว ที่บ้านพักนั้น คาดว่า น้องวีน คงจะมาเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ ซึ่งน้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะเรียนมาตั้งแต่ต้น และคาดว่า น้องวีน น่าจะไม่ล้มเลิกความมุ่งมั่นนี้
สำหรับการันตีสิทธิ์เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 เดือนกุมภาพันธ์ และก็จะมีการไตร่ตรองพร้อมด้วยประกาศผล ผู้ที่ได้รับการคัดเลือด เข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 เดือนกุมภาพันธ์นี้

ลือสนั่น มอ. ตัดสิทธิ์ “น้องวีน จนทิพย์” ไม่ให้เรียนหมอ ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยตอบแล้ว
หลังจากที่ที่ผ่านมา เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ได้ออกมาโพสต์เนื้อความ อัปเดตความคืบหน้ากรณีครอบครัวของ “น้องวีน จนทิพย์” เด็กนักเรียนชายที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ที่ออกมาเปิดบัญชี รับบริจาคหาเงินเรียนหมอ ก่อนถูกโซเชียลแฉว่า ไม่ได้จนจริง ทั้งยังแม่ที่ใช้ของแบรนด์เนมบ่อยๆ รวมทั้งลูกที่ใช้ของแพง ๆ อีกทั้งสมาร์ทโฟน แล้วก็นาฬิการาคาแพง โดยทางเพจอัปเดตว่า ทางครอบครัวเพิ่งจะปิดบัญชี รับบริจาคตอนวันที่ 18 ที่ผ่านมานี้ และยังบอกอีกว่า ฝากสื่อ-นักข่าวตามด้วย ม.สงขลาฯ เหมือนจะไม่รับ น้อง..จนทิพย์เข้าเรียนในคณะแพทย์แล้ว
ปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กล่าวมาว่า นักเรียนผู้ชายคนดังกล่าว ผ่านการตรวจสอบรอบพิเศษของนักเรียนภายใน จ.พัทลุง รวมทั้งเป็นโครงการพิเศษ ห้วยยอดโมเดลที่เริ่มมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นโครงการปฏิรูปการศึกษา ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่จะสร้างแพทย์จากคนภายในพื้นที่ ที่รู้ปัญหาด้านสุขภาพของคนบ้านเดียวกัน แต่ขณะนี้ ยังไม่มีการตัดสิทธิ์อะไรก็ตาม เพราะอยู่ในขั้นตอนที่ เด็กต้องทำยืนยันสิทธิ เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันที่ 7-8 เดือนกุมภาพันธ์ และจะมีการพิจารณากับ ประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือด เข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 เดือนกุมภาพันธ์นี้
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าที่ผ่านมา ทางคณะฯ ได้นัดคุยเด็กแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ดี คณะแพทยศาสตร์ ไม่สามารถปฏิเสธสิทธิการรับเข้าศึกษาของเด็กได้
ก่อนหน้านี้ สาวช่วยครอบครัวเด็ก 18 ติดแพทย์ เปิดโปงจนทิพย์อ้างแม่ใส่ทอง เที่ยวผับ
สาวโพสต์เฟซบุ๊ก ระบายความในใจ บอกเสียความรู้สึก หลังจากแม่เด็ก 18 สอบติดแพทย์ ไม่ยอมแจงเงินบริจาค บอกได้เงินแล้ว จบ! คาดตุ๋นทุกคนจนเปื่อย จากกรณีเด็กนักเรียนผู้ชายวัย 18 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมา ทางครอบครัวแจ้งว่า น้องสอบคัดเลือกเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา แต่มีปัญหาเรื่องทุนเล่าเรียน พร้อมกับเปิดรับบริจาค ก่อนที่จะออกมาประกาศขอบคุณ ผู้ใจบุญ พร้อมกับปิดรับบริจาคเงินไป โดยมีตัวแทนจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง แจ้งความประสงค์ดูแลเรื่องทุนเล่าเรียนของน้องจนสำเร็จการศึกษา
แต่ว่าแล้วชาวเน็ต ได้มีการแชร์ภาพจาก เฟซบุ๊กเพจหนึ่ง อ้างถึงว่าเป็นภาพของน้องในช่วงเวลาที่ ถือโทรศัพท์ไอโฟน 12 Pro Max ใส่นาฬิกา Apple Watch พร้อมด้วยตั้งคำถามว่า ใช้สิ่งที่มีค่าขนาดนี้ จะมาขอรับบริจาคเพราะอะไร หรือเพราะเหตุใดไม่ไปกู้ กยศ.
กระทั่งถัดมา มีตัวแทนจากครอบครัวของน้อง ออกมาแจกแจง ถึงยอดเงินบริจาคว่า เท่าที่ทราบ เงินผ่านบัญชีมีราว 8 แสนบาทเศษ ส่วนของราคาแพง ที่น้องใช้นั้น แม่ก็ยังผ่อนอยู่ เนื่องจากต้องการให้น้องมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อใช้สำหรับการเรียน หาความรู้ด้วยตัวเอง จากที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น